Case Study |

Article Language

HOKKAIDO BALLPARK F VILLAGE ES CON FIELD HOKKAIDO

Hokkaido, Japan

Sports Facility

Download PDF

สิ่งอำนวยความสะดวกหลัก

1 kW-equivalent LED floodlights
สปอตไลท์ LED เทียบเท่า 2kW
หลอดไฟ LED หลัก
LANTERNA
BioSHADOW
ป้ายดิจิทัล

KAIROS
S-CMS
เครื่องกำเนิดไอออน nanoe™ X
Ziaino
Natural chillers

[Last updated on April 17 2024]

BALLPARK ที่ถูกพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโด

HOKKAIDO BALLPARK F VILLAGE เปิดให้บริการในเดือนมีนาคม พ.ศ.2566 และเป็นที่ตั้งของสนามกีฬาแห่งใหม่ของ Hokkaido Nippon-Ham Fighters นั่นคือ ES CON FIELD HOKKAIDO โดยสนามกีฬาดังกล่าวเป็นพื้นที่ ที่มีสนามเบสบอลเป็นศูนย์กลาง ผสมผสานกับสวนสาธารณะหรือศูนย์การค้า ฯลฯ ในสหรัฐอเมริกามีโครงการพัฒนาเมืองโดยการสร้าง BALLPARK อยู่หลายแห่ง ที่ F VILLAGE แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ชมการแข่งขันเบสบอลเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็น “พื้นที่สร้างสรรค์ร่วมกัน” ที่จะเชื่อมโยงเหล่าแฟนเบสบอล พันธมิตรและคนในชุมชน เพื่อกระตุ้นสังคมและการมีส่วนร่วมกันในพื้นที่ และยังเป็น “พื้นที่สัญลักษณ์ของฮอกไกโด” ที่จะส่งเสริมคุณค่าและเสน่ห์ของฮอกไกโดแก่ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีการสร้างพันธมิตรที่หลากหลายระหว่างภาคเอกชน รัฐบาล และสถาบันการศึกษาเพื่อสนับสนุนโครงการนี้และส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมในพื้นที่ในอนาคต บนที่ดินผืนใหญ่ประมาณ 32 เฮกตาร์ (เท่ากับสนามโตเกียวโดม 7 สนาม) นี้ มีศูนย์กลางคือสนามเบสบอลแห่งใหม่ และโดยรอบมีการสร้างทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ศูนย์การเรียนรู้ทางการเกษตร โรงเรียนอนุบาลที่ได้รับการรับรอง หรือที่อยู่อาศัยด้วย นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าที่เปิดให้บริการอยู่ทั่ว F VILLAGE แม้ในวันที่ไม่มีการแข่งขัน เช่นศูนย์การค้าภายในสนามเบสบอล เป็นต้น

ไฟสปอร์ตไลท์ LED Ra90 ที่มีค่าการแสดงสีอันดีเยี่ยม ถูกติดตั้งไว้บนส่วนที่คงที่ของหลังคา

สปอตไลท์ LED ที่มีกำลังไฟเทียบเท่า 1kW/2kW สามารถปรับทิศทางการส่องไฟแต่ละตัวได้เพื่อลดแสงจ้า

ป้ายดิจิทัลประมาณ 600 จอติดตั้งภายในสนาม

ห้องควบคุมที่ติดตั้งระบบควบคุม “KAIROS”

การควบคุมสปอตไลท์ 354 ตัวและการแสดงภาพเพื่อเปลี่ยนสนามเบสบอลเป็นพื้นที่เพื่อความบันเทิง

สนามเบสบอลใหม่นี้มีหลังคาเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (กว้างประมาณ 166 เมตร) ประกอบด้วยชั้นใต้ดิน 2 ชั้นและชั้นบนดิน 6 ชั้น สามารถรองรับผู้ชมได้ประมาณ 35,000 คน ที่นั่งฝั่งฐานที่สามซึ่งเป็นที่นั่งสำหรับแฟนเบสบอลขาจรได้ถูกจัดให้มีจำนวนน้อยลง และในที่นั่งฝั่งด้านนอกสนามฝั่งซ้าย มีการสร้างอาคาร “TOWER 11” ซึ่งเป็นตึก 5 ชั้น ที่รวมเอาทั้งโรงแรมและสถานที่แช่ออนเซ็นไว้ ฝั่งทิศใต้ของสนามเป็นผนังกระจกขนาดใหญ่สูงถึง 70 เมตร ช่วยให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาและยังทำหน้าที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก สปอตไลท์ LED กำลังไฟเทียบเท่า 2kW จำนวน 226 ตัวและสปอตไลท์ LED กำลังไฟเทียบเท่า 1kW จำนวน 128 ตัวถูกติดตั้งที่ผนังกระจกส่วนบนและส่วนเคลื่อนที่ไม่ได้ของหลังคา เพื่อไม่ให้แสงจ้าจากสปอตไลท์ส่งผลเสียต่อการเล่นของนักกีฬา แสงจากสปอตไลท์ได้ถูกจำกัดเป็นแสงแคบและทิศทางของแต่ละสปอตไลท์ถูกกระจายออกไปเพื่อลดการซ้อนทับของแสงและลดแสงจ้าเมื่อมองขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีการควบคุมด้วยระบบ DMX ซึ่งสามารถปรับความสว่าง (ปรับแสงได้ 0-100%) และสามารถกะพริบได้ทันทีตามฉากของการแข่งขัน เช่น ตอนโฮมรันหรือตอนชนะการแข่งขัน มีระบบแสดงผลที่ควบคุมแสง ภาพ และเสียงที่ทำงานร่วมกัน โดยใช้แพลตฟอร์ม IT/IP “KAIROS” และระบบการจัดการแบบบูรณาการ “S-CMS” แพลตฟอร์ม “KAIROS” สามารถประมวลผลภาพหลายรูปแบบ ในขณะที่ระบบ “S-CMS” จะช่วยควบคุมแสง ภาพ และเสียงโดยรวม และส่งข้อมูลไปยังอุปกรณ์การแสดงผลขนาดใหญ่และป้ายดิจิทัลประมาณ 600 หน้าจอที่ติดตั้งไว้ทั่วสนามเบสบอล

คุณสมบัติเฉพาะของสนามเบสบอลใหม่แห่งนี้คือบรรยากาศที่หลากหลายสำหรับการรับชมการแข่งขัน หนึ่งในนั้นคือ “Panasonic CLUB LOUNGE” ที่ตั้งอยู่ใกล้ม้านั่งสำรองฝั่งฐานที่สาม ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมการแข่งขันที่สมจริงเทียบเท่าระดับสายตาของนักเบสบอลพร้อมกับรับประทานอาหารชั้นเลิศและสัมผัสประสบการณ์ของผลิตภัณฑ์และบริการจาก Panasonic ในพื้นที่ตกแต่งด้วยโทนไม้ ปรับแสงกำลังพอดี บรรยากาศสงบ ใช้โปรเจคเตอร์แบบดาวน์ไลท์ “BioSHADOW” ในการแสดงภาพแสงแดดลอดผ่านต้นไม้ พร้อมกับเครื่องกำเนิดไอออนแบบสปอตไลท์ nanoe™ X และเครื่องฆ่าเชื้อและกำจัดกลิ่นในอากาศด้วยกรดไฮโปคลอรัส “Ziaino” ที่ช่วยให้สภาพอากาศสะอาดสบาย ให้ประสบการณ์การรับชมการแข่งขันที่ไม่เหมือนใครด้วยลูกเล่นของแสงสีและผลิตภัณฑ์ด้านความงาม สุขภาพ และ เครื่องแสดงภาพและเสียงรุ่นล่าสุด

รายงานการออกแบบสถาปัตยกรรม ฉบับที่ 46 /เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2566
*ชื่อบริษัทและตำแหน่งเป็นข้อมูลในขณะที่ตีพิมพ์